บทเพลงและบทเรียนในการนมัสการ
โดย เมธา เกรียงปริญญากิจ
ศิษยาภิบาลและผู้นำนมัสการ ผู้แต่งเพลงนมัสการมากมายที่คริสตจักรไทยรู้จัก
เช่น ราชาแห่งดวงใจ, สิ่งเดียว, คำอธิษฐาน, นามอัศจรรย์, ขอพระวิญญาณสถิต ฯลฯ
ฟังเพลงจากอัลบั้ม “Kingdom Worshipper – ราชาแห่งดวงใจ”
ผ่าน Application ต่อไปนี้
หรือสนับสนุนด้วยการดาวน์โหลดเพลงบน iTunes และซื้อ CD
Song Stories
เบื้องหลังเพลงประทับใจ
ข้าจึงสรรเสริญ
ชีวิตของปุ๋ย นภารัตน์ ลิขิตกุล ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวกับพระเจ้ามาอย่างยาวนาน และสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งหมดได้ยืนยันกับเธอว่า พระเจ้าทรงรักเธอ ทรงดูแล ทรงอยู่ด้วยในทุกสถานการณ์ และทรงเป็นความหวังที่ไม่มีวันเสื่อมสูญ วันนี้เธอคือผู้ใหญ่อีกหนึ่งคนที่จะมายืนยันถึงความรักอันมั่นคงของพระเจ้าผ่านบทเพลงที่แสนอ่อนหวานนี้
ข้าเป็นของพระองค์
ไม่ใช่เพราะเราเลือกพระองค์ แต่เป็นเพราะพระองค์ทรงเลือกเราไว้ตั้งแต่ก่อนสร้างโลก พระองค์เป็นฝ่ายรักเราก่อน…และพระองค์เฝ้ารอให้เรารับความรักนั้น…ในวันที่เรารับเชื่อ ประกาศตัวเป็นผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ ถ้าความจริงข้อนี้เลือนลางไปจากหัวใจของคุณ แล้วมันทำให้คุณสับสน ไม่มั่นคง ไม่แน่ใจว่ามีใครรักคุณหรือไม่…เราอยากชวนให้คุณเปล่งเสียงร้องเพลงนี้ออกมาดังๆ ประกาศออกมา บอกกับหัวใจของคุณเองว่า “ฉันเป็นของพระเจ้า ฉันเป็นลูกของพระองค์”
สิ่งเดียว
ถ้าวันนี้คุณรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการวิ่งตามเป้าหมายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ความสัมพันธ์ หรือการเป็นคนที่ดีกว่าเดิม…เราอยากชวนให้คุณเข้ามานั่งพักสงบต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้า แล้วให้พระองค์เติมคุณให้เต็มเสียก่อน…คุณจะได้เห็นว่าจริงๆ แล้วสิ่งในชีวิตเราทุกคน ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการได้อยู่กับพระองค์
ราชาแห่งดวงใจ
บ่อยครั้งเราที่เราสรรเสริญและนมัสการพระเจ้า เรามักจะร้องบทเพลงถึงความยิ่งใหญ่ การครอบครองของพระองค์เหนือแผ่นดินโลกและสวรรค์ ซึ่งแน่นอนว่าพระองค์ทรงสมควรที่จะได้รับการยกย่องเช่นนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องรู้ว่าพระเจ้านั้นทรงปรารถนาจากชีวิตของเรามากยิ่งไป กว่านั้นก็คือ การที่เราจะยอมให้พระองค์จะได้ครอบครองเป็นราชาเหนือหัวใจของเราเอง เพื่อให้เราสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในพระประสงค์ของพระเจ้าได้ในทุกๆ วัน ลองถามตัวเองดูซิว่า วันนี้คุณมีอะไรบ้างในหัวใจของคุณที่ยังไม่ได้ให้พระเจ้าเข้ามาเป็นใหญ่?
เปิดดวงตา
เราอาจจะเคยได้ยินคนพูดว่า การนมัสการนั้นเป็นการสื่อสารสองทาง คือเมื่อเราเริ่มต้นนมัสการพระเจ้าหรือพูดกับพระองค์ พระองค์ก็ทรงตรัสกับเราด้วยในเวลาเดียวกัน แต่ผมเชื่อว่ายังมีสิ่งที่มากไปกว่านั้น เพราะว่าการนมัสการที่แท้จริงนั้นยังก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน ระหว่างสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ กับสิ่งที่พระองค์ปรารถนาจะทำในชีวิตของเราได้ แปลว่าเมื่อเรา”หว่าน”คำสรรเสริญของเราขึ้นไปยังพระองค์ นอกจากพระองค์จะทรงฟังเราแล้ว พระองค์ก็จะเริ่มต้น”หว่าน”การอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์เข้ามายังชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นความเข้าใจที่สดใหม่ในพระคำของพระเจ้า, การปลดปล่อยในฝ่ายวิญญาณ, การหายโรค และสิ่งต่างๆ ซึ่งพระเจ้าจะได้ทรงประทานให้กับเราตามพระสัญญาของพระองค์
กษัตริย์แห่งพระสิริ
สดุดี 24:7-10 “ประตูเมืองเอ๋ย จงยกหัวของเจ้าขึ้น บานประตูนิรันดร์เอ๋ย จงยกขึ้นเถิด เพื่อกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริจะได้เสด็จเข้ามา กษัตริย์ผํู้ทรงพระสิรินั้นคือผู้ใด คือพระเจ้า ผู้เข้มแข็งและทรงอานุภาพ พระเจ้าผู้ทรงอานุภาพในสงคราม ประตูเมืองเอ๋ย จงยกหัวของเจ้าขึ้นเถิด เพื่อกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริจะเสด็จเข้ามา กษัตริย์ผู้ทรงพระสิรินั้นคือผู้ใด คือพระเจ้าจอมโยธา พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริ”
พระคัมภีร์สดุดีบทนี้เป็นบทที่ผมชอบที่สุดบทหนึ่ง พระเจ้าให้เกียรติเราที่จะเป็นประตูสำหรับพระสิริของพระองค์บนโลกใบนี้ พระองค์ทำงานผ่านชีวิตของเรา และเมื่อเรายกชูพระเจ้าขึ้นและเชิญพระองค์ในการสรรเสริญนมัสการของเรา พระองค์จะเสด็จเข้ามาทำกิจของพระองค์ทั้งในชีวิตส่วนตัวของเรา ในคริสตจักร และในประเทศของเรา เราพร้อมไหมที่จะต้อนรับพระเจ้า กษัตริย์แห่งพระสิริองค์นี้ ด้วยบทเพลงแห่งการสรรเสริญนมัสการของเรา!